top of page

แบบจำลองอะตอมกลุ่มหมอก

แบบจำลองอะตอมของโบร์ ใช้อธิบายเกี่ยวกับเส้นสเปกตรัมของธาตุไฮโดรเจนได้ดี  แต่ไม่สามารถอธิบายเส้นสเปกตรัมของอะตอมที่มีหลายอิเล็กตรอนได้   จึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมทางกลศาสตร์ควอนตัม แล้วสร้างสมการสำหรับใช้คำนวณ  โอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนในระดับพลังงานต่าง ๆ ขึ้นมา จนได้แบบจำลองใหม่ ที่เรียกว่าแบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้


              อิเล็กตรอนเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสอย่างรวดเร็ว ด้วยรัศมีไม่แน่นอนจึงไม่สามารถบอกตำแหน่งที่แน่นอนของอิเล็กตรอนได้บอกได้แต่เพียงโอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนในบริเวณต่าง ๆ ปรากฏการณ์แบบนี้เรียกว่ากลุ่มหมอกของอิเล็กตรอน บริเวณที่มีกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนหนาแน่นจะมีโอกาสพบอิเล็กตรอนมากกว่าบริเวณที่เป็นหมอกจาง

 

              การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียสอาจเป็นรูปทรงกลมหรือรูปอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของอิเล็กตรอน แต่ผลรวมของกลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนทุกระดับพลังงาน จะเป็นรูปดังภาพ

การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม

1. จัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลัก (Shell)

 

2.จัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อย (Sub Shell)

 

3.จัดเรียงอิเล็กตรอนในออร์บิทัล (Orbital)

1.  การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลัก

จำนวนอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงานหลักมีจำนวนไม่เกิน  2n2

เมื่อ  n  คือระดับพลังงานหลักที่ 1 , 2 , 3 , . . .

 

ระดับพลังงานหลัก  n=1       มีอิเล็กตรอนไม่เกิน            2             อิเล็กตรอน

 

ระดับพลังงานหลัก  n=2       มีอิเล็กตรอนไม่เกิน            8             อิเล็กตรอน

 

ระดับพลังงานหลัก  n=3       มีอิเล็กตรอนไม่เกิน            18           อิเล็กตรอน

 

ระดับพลังงานหลัก  n=4       มีอิเล็กตรอนไม่เกิน            32           อิเล็กตรอน

 

ตามความสัมพันธ์นี้การจัดเรียงอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงาน จะมีอิเล็กตรอนได้ไม่เกินจำนวนสูงสุดที่จะมีได้  ถ้าพิจารณา K  และ   Ca  ซึ่งควรมีอิเล็กตรอนเป็น  2 , 8 , 9  และ 2 , 8 , 10  เนื่องจากในระดับพลังงานที่ 3 มีได้ถึง  18  อิเล็กตรอน  แต่จากการศึกษาพบว่าการจัดเรียงอิเล็กตรอนของ K = 2 , 8 , 8 , 1  และ  Ca  = 2 , 8 , 8 , 2  เนื่องจากอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 ของทั้งสองธาตุมีเพียง  8  อิเล็กตรอน  และส่วนที่เพิ่มขึ้นมาอีก  1  หรือ  2  อิเล็กตรอนนั้นเข้าไปอยู่ในระดับพลังงานที่ 4 เพราะการจัดเรียงอิเล็กตรอน อิเล็กตรอนชั้นนอกสุดซึ่งเรียกว่าเวเลนซ์อิเล็กตรอนต้องไม่เกิน 8

2.  การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อย

จากการศึกษาสมบัติที่เป็นคลื่นของอิเล็กตรอน  พบว่าอิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงานหรือวง (shell) ต่าง ๆ กัน  ซึ่งเรียกว่าระดับพลังงานหลัก  และในระดับพลังงานเดียวกันยังมีระดับพลังงานย่อย (sub shell) ต่าง ๆ อีก  คือระดับพลังงานย่อย  s , p , d และ f  โดยในแต่ละระดับพลังงานย่อยมีอิเล็กตรอนดังนี้

 

ระดับพลังงานหลักที่ 1 (n=1)      มี 1 ระดับพลังงานย่อยคือ  s

 

ระดับพลังงานหลักที่ 2 (n=2)      มี 2 ระดับพลังงานย่อยคือ  s  ,  p

 

ระดับพลังงานหลักที่ 3 (n=3)      มี 3 ระดับพลังงานย่อยคือ  s  ,  p  ,  d

 

ระดับพลังงานหลักที่ 4 (n=4)      มี 4 ระดับพลังงานย่อยคือ  s  ,  p  ,  d  ,  f

 

อิเล็กตรอนมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา  ความหนาแน่นของกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนซึ่งวัดออกมาในรูปของโอกาสที่จะพบอิเล็กตรอนซึ่งเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสจะมีรูปร่างเป็น 3 มิติที่แตกต่างกันซึ่งเรียกว่า ออร์บิทัล

ออร์บิทัล (orbital)

 

หมายถึงบริเวณที่มีโอกาสสูงที่จะพบอิเล็กตรอน  หรือบริเวณที่อยู่ของอิเล็กตรอน  ซึ่งมีรูปร่างเป็น 3 มิติแตกต่างกัน ดังนี้

s–orbital  มีความหนาแน่นของอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียสเท่ากันทุกทิศทาง  ทำให้มองเห็นว่าออร์บิทัลนี้มีรูปร่างเป็นทรงกลมรอบนิวเคลียส

p–orbital  มีความหนาแน่นของอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียสอยู่ในบริเวณแกน x , y , z จึงเป็น  px–orbital  , py–orbital  , pz–orbital  ตามลำดับ  โดยออร์บิทัลทั้งสามมีรูปร่างคล้ายดรัมเบลล์  มีพลังงานเท่ากัน  แต่มีทิศทางแตกต่างกัน 

 

 

d–orbital  มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น  โดยสองออร์บทัลคือ และ  มีความหนาแน่นของอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียสอยู่ในบริเวณแกน  z  และแกน  x  กับแกน  y ตามลำดับ  ส่วนอีกสามออร์บิทัลคือ   ,    และ  ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนจะอยู่ในบริเวณระหว่างแกน  x   กับ  y  แกน  y  กับ  z  และแกน  x  กับ  z ตามลำดับ

 

ระดับพลังงานย่อย

 

s จำนวนออร์บิทัล 1 จำนวนอิเล็กตรอนแต่ละออร์บิทัล 2 จำนวนอิเล็กตรอนรวม 2

 

p จำนวนออร์บิทัล 3 จำนวนอิเล็กตรอนแต่ละออร์บิทัล 2 จำนวนอิเล็กตรอนรวม 6

 

d จำนวนออร์บิทัล 5 จำนวนอิเล็กตรอนแต่ละออร์บิทัล 2 จำนวนอิเล็กตรอนรวม 10

 

f จำนวนออร์บิทัล 7 จำนวนอิเล็กตรอนแต่ละออร์บิทัล 2 จำนวนอิเล็กตรอนรวม 14

 

3.  การจัดเรียงอิเล็กตรอนในออร์บิทัล

1.  ใช้หลักการกัดกันของเพาลีที่กล่าวว่า  อิเล็กตรอนคู่หนึ่งคู่ใดในออร์บิทัลเดียวกันจะต้องมีสมบัติไม่เหมือนกัน  อย่างน้อยต้องมีการหมุนรอบตัวเองไม่เหมือนกัน  โดยตัวหนึ่งหมุนตามเข็มนาฬิกา  และอีกตัวหนึ่งหมุนทวนเข็มนาฬิกา  เพื่อให้ระบุได้ว่าเป็นอิเล็กตรอนตัวใดเมื่ออิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงาน  ระดับพลังงานย่อย  และในออร์บิทัลเดียวกัน  จึงกำหนดให้บรรจุอิเล็กตรอนลงในออร์บิทัลได้สูงสุด  2  อิเล็กตรอน  ให้          แทนออร์บิทัล  อิเล็กตรอนเขียนด้วยลูกศร  อิเล็กตรอนในออร์บิทัลจึงเขียนแทนได้เป็น            หรือ             โดยหัวลูกศรแสดงทิศทางการหมุนของอิเล็กตรอน  1  ใน  2  แบบที่เป็นไปได้  ในกรณีที่มีอิเล็กตรอนเต็มออร์บิทัลสามารถเขียนเป็น           ถ้าเขียนเป็น           หรือ           จะไม่สอดคล้องตามหลักการกีดกันของเพาลี

 

2.  การบรรจุอิเล็กตรอนต้องบรรจุลงในออร์บิทัลที่มีพลังงานต่ำสุดและว่างก่อนเสมอ (ตามหลักของเอาฟบาว)  คือ  1s  2s  2p  3s   .  .  . ตามลำดับ  เพราะจะทำให้พลังงานรวมทั้งหมดมีค่าต่ำสุดและมีความเสถียรที่สุด  ในกรณีที่มีหลายออร์บิทัลและแต่ละออร์บิทัลมีพลังงานเท่ากัน  เช่น  2p–orbital  ซึ่งออร์บิทัลทั้งสามมีพลังงานเท่ากัน  ให้บรรจุอิเล็กตรอนในลักษณะที่ทำให้มีอิเล็กตรอนเดี่ยวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ (ตามกฎของฮุนด์)  เมื่ออิเล็กตรอนเหลือจึงบรรจุอิเล็กตรอนเป็นคู่เต็มออร์บิทัลนั้น  เช่น 

 

¢    มี  2  อิเล็ตรอนใน 2p–orbital  จะบรรจุอิเล็กตรอนได้เป็น     

 

¢    มี  5  อิเล็ตรอนใน 2p–orbital  จะบรรจุอิเล็กตรอนได้เป็น   

 

 

3.  อะตอมของธาตุที่มีการบรรจุอิเล็กตรอนเต็มในทุก ๆ ออร์บิทัลที่มีพลังงานเท่ากันเรียกว่า การบรรจุเต็ม (full filled)  ถ้ามีอิเล็กตรอนบรรจุอยู่เพียงครึ่งเดียวเรียกว่า การบรรจุครึ่ง (half filled)  การบรรจุเต็มหรือบรรจุครึ่งจะทำให้อะตอมมีความเสถียรมากกว่าการบรรจุแบบอื่น ๆ


      

 

 

การบรรจุเต็ม

 

 

 

 

 

การบรรจุครึ่ง

 

 

ในกรณีที่มีหลายอิเล็กตรอน  การบรรจุอิเล็กตรอนลงในออร์บิทัลต่าง ๆ ตามลำดับพลังงานจากต่ำไปสูงจะเป็นดังนี้

การจัดเรียงอิเล็กตรอนเข้าในระดับพลังงานตามลำดับ

อิเล็กตรอนที่อยู่ในระดับพลังงานสูงสุดหรือชั้นนอกสุดของอะตอมเรียกว่า เวเลนซ์อิเล็กตรอน (valence electron)

 

การบรรจุอิเล็กตรอนในออร์บิทัลต่าง ๆ ตามลำดับระดับพลังงาน  มีบางธาตุที่มีการบรรจุอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อยไม่เป็นไปตามหลักการ  เช่น  Cr เลขอะตอม 24 มีแผนภาพแสดงการจัดเรียงอิเล็กตรอนในออร์บิทัลต่างๆ ดังนี้

 

Cr  =  1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s1  3d5      ไม่ใช่       4s2  3d4

 

Cu  =  1s2  2s2  2p6  3s2  3p6  4s1  3d10   ไม่ใช่      4s2  3d9

 

The Prince Royal's College

117 ถนนเเก้วนวรัฐ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

โทร. 05324-2038

เว็บ www.prc.ac.th

 

bottom of page